บาคาร่า รักสัตว์ รักษ์สิ่งแวดล้อม – ซอยด๊อก รวมพลังทำความสะอาดหาดไม้ขาว

บาคาร่า รักสัตว์ รักษ์สิ่งแวดล้อม – ซอยด๊อก รวมพลังทำความสะอาดหาดไม้ขาว

เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย บาคาร่า ได้รวบรวมเหล่าเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และแขกผู้แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชม ไปยังหาดไม้ขาวเพื่อเก็บขยะ ทำความสะอาดหาด โดยสามารถรวบรวมขยะได้มากถึง 2,576 กิโลกรัม ในฐานะมูลนิธิด้านสวัสดิภาพสัตว์ ซอยด๊อกเข้าใจเป็นอย่างดีว่าธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตของคนและสัตว์มากเพียงใด และกิจกรรมในครั้งนี้ก็มุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติทางทะเล อันเป็นสมบัติล้ำค่าของจังหวัดภูเก็ตไม่ให้เสื่อมโทรม และยังคงทัศนียภาพที่สวยงามอยู่เสมอ เพื่อให้ทั้งคนและสัตว์สามารถอยู่ร่วมกันในสิ่งแวดล้อมที่ดีได้

โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากจากทั้งภายในและภายนอกองค์กร เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจบริเวณหาดไม้ขาวแล้ว เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ ได้นำขยะจำนวน 2,576 กิโลกรัม ดังกล่าวไปส่งยังเตาเผาขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ตเพื่อทำลายต่อไป ทั้งนี้ มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยได้ริเริ่มโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ Soi Dog Goes Green มาตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดมลพิษและรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านวิธีการหลากหลาย

ติดสติ๊กเกอร์รอบฐานปฎิมากรรมปูดำ ห้ามขึ้นเหยียบ ระบุฝ่าฝืนจ่อปรับเป็นเงิน 2พันบาท

วันที่ 2 ก.ค.61 นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้นำสติ๊กเกอร์ สัญลักษณ์ พร้อมข้อความ 3 ภาษา คือ ไทย จีน และอังกฤษ ห้ามบุคคลขึ้นไปเหยียบบน ประติมากรรมปูดำ หากฝ่าฝืนจะถูกปรับเป็นเงิน 2,000บาท ที่บริเวณรอบๆ ฐานประติมากรรมปูดำ ริมเขื่อนเจ้าฟ้า ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ จำนวน 8จุด เพื่อสื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ หลังจากที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขึ้นไปยืนถ่ายรูปบนประติมากรรมบ่อยครั้ง ทั้งที่เจ้าหน้าที่ห้ามปรามแล้ว แต่ก็ยังมีการฝ่าฝืน จนกระทั่งมีการถ่ายภาพและคลิป แชร์ลงในโลกโซเชี่ยลฯจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ เปิดเผยว่า ทางเทศบาลเมืองกระบี่ ได้ทำสติ๊กเกอร์ ข้อความ 3 ภาษาห้ามนักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปบนตัวปูดำ พร้อมระบุค่าปรับ 2 พันบาทกับผู้ที่ฝ่าฝืน หวังแค่ปรามและเตือนนักท่องเที่ยว ไม่ให้ขึ้นไปบนตัวปูดำ หรือ กระทำการให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากระยะหลังมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปเหยียบบ่อยครั้ง จนเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ อย่างเช่น ที่ปรากฏในคลิปที่มีชาวจีนขึ้นไปถ่ายภาพบนปูดำ ต่อมาก็มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ขึ้นไปนั่งถ่ายภาพบนตัวปูดำอีก เจ้าหน้าที่ห้ามปราบก็ไม่ฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และนอกจากนี้ อาจจะเกิดอันตรายและสร้างความเสียหายกับตัวประติมากรรม

นายกีรติศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประติมากรรมปูดำนั้น สร้างขึ้นมาประมาณ 9 ปี แล้ว เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน ริมเขื่อนปากน้ำหน้าเมืองกระบี่ ที่มีฉากหลังเป็นเขาขนาบน้ำสัญลักษณ์ของจังหวัดกระบี่ และกลายเป็นจุดนัดพบและจุดทำกิจกรรมต่างๆ

นักท่องเที่ยวที่มาจังหวัดกระบี่ จะต้องแวะมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก จนกลายเป็นแลนด์มาร์คยอดนิยมอันดับ 1 ของเมืองกระบี่ไปแล้ว จริงๆแล้วไม่อยากให้ตำหนิติเตียนนักท่องเที่ยวชาวจีน หรือชาติอื่นๆ ที่ขึ้นไปเยียบบนปูดำ เพราะที่ผ่านมามีคนที่ทำแบบนี้อยู่บ้างในทุกชาติๆ

ก่อนหน้านี้ก็มีป้ายห้ามอยู่แล้ว แต่อาจทำให้ฝ่าฝืนกันอยู่บ่อยๆเพราะไม่มีบทลงโทษ ทางเทศบาลจึงมีแนวคิด ให้ระบุโทษปรับไปด้วย 2พันบาท และสติ๊กเกอร์ข้อความ 3 ภาษานี้ จะติดเป็นการชั่วคราว และหลังนากนี้จะดำเนินการติดตั้งป้ายใหม่ที่มีความคงทนถาวรต่อไป

ทีมปีนผาอ่าวไร่เล แจ้งภารกิจ ช่วยทีมค้นหา 13 ชีวิต พร้อมเตรียมนำทีมสมทบเพิ่ม

เวลา 11.00 น.วันที่ 2 กรกฎาคม 61 นางสาวผยอม นุ่มจันทร์ เลขาฯชมรมปีนผาอ่าวไร่เล ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ พร้อมด้วยนางจรัญธร ผิวดี ที่ปรึกษาฯและสมาชิกฯได้เข้าพบนายศรัทธา ทองคำ นายอำเภอเมืองกระบี่ เพื่อแจ้งภารกิจของชมรมฯในการเดินทางไปช่วยเหลือร่วมภารกิจปฏิบัติการช่วยเหลือเด็กนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอน 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย

นางสาวพะยอม นุ่มจันทร์ เลขาฯชมรมปีนผาอ่าวไร่เล ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ จากการติดตามภารกิจของทีมค้นหา พบว่ามีความจำเป็นต้องใช้นักปีนผาที่มีความชำนาญ ในการร่วมทีม ซึ่งทีมปีนผาอ่าวไร่เล ทุกคนมีความพร้อมความชำนาญ ในการปีนผา เป็นระเวลายาวนาน ไม่ต่ำกว่า 20 ปี ทางชมรมอ่าวไร่เล จึงได้รวมตัวสมาชิก จำนวน 12 คน เดินทางไปช่วยเหลือ โดยเริ่มทยอยไปตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา

นางสาวพะยอม กล่าวด้วยว่า หลังจากเข้าแจ้งถึงภารกิจที่ทางชมรมฯได้ไปทำร่วมกับทีมค้นหานักฟุตบอล และผู้ฝึกสอน ทีมหมู่ป่า อะคาเดมี่ รวม 13 ชีวิต ทราบว่าภารกิจของชมรมฯได้ดำเนินไปด้วยดี และหลังจากนี้ตนและสมาชิกอีกบางส่วนก็จะเดินทางไปสมทบเพิ่มเพื่อช่วยแบ่งเบาภารกิจและผลัดเปลี่ยนกำลังของสมาชิก ฯ ที่เดินทางไปล่วงหน้าแล้ว จนกว่าจะสำเร็จภารกิจ ที่ตั้งใจไว้

จากการสอบถาม MR.PEDRE  NAHUM  สัญชาติอาเจนติน่า อายุ 25 ปี ทราบว่า เข้ามาในประเทศไทยผ่านสนามบินภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 และมีกำหนดอยู่ในประเทศไทยถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2561โดยให้การบอมรับว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากต้องการหาเงินไปรักษาภรรยาที่นอนป่วยอยู่ต่างประเทศ หลังจากได้เงินแล้วได้มีการจองตั๋วเครื่องบินเพื่อจะบินกลับประเทศในวันนี้ (12มี.ค.) แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน บาคาร่า